ชุดเครื่องนอนคุณภาพเยี่ยม  โดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่ทันสมัย มีให้เลือกมากมายและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบสิ่งดีๆให้กับคุณ

ชุดเครื่องนอนที่คัดสรรจากผ้าค๊อตต๊อนเกรดเอ ไร้รอยต่อเนื้อนุ่ม บรรจงคัดสรรลวดลายที่สวยหรูและคลาสสิค ผลิตภัณฑ์บรรจุใยที่ออกแบบให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ผลิตภัณฑ์หมอนยางพาราเพื่อการนอนที่ผ่อนคลาย เราให้ความสำคัญในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต ซึ่งล้วนได้ผ่านการคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้คุณภาพสินค้าที่สูงสุด

ผ้าฝ้าย 100%
ข้อดี: ระบายอากาศดี ทนทาน ใช้นาน | ข้อเสีย : ผ้าไม่เงาเท่าวัสดุอื่น และ สัมผัสแรกจะไม่ค่อยนุ่มลื่น แต่ซักบ่อย ๆ จะนุ่ม ลื่น เย็นสบาย 

โพลีเอสเตอร์
ข้อดี: ผ้าเงา ไม่ยับ ราคาถูก ทนทานหรือไม่อยู่ที่คุณภาพเส้นด้าย | ข้อเสีย: ร้อนค่ะ ผ้าจะไม่ระบายอากาศได้ดีเท่าคอตตอน ค่อนข้างมีไฟฟ้าสถิต ซักไม่กี่ครั้งจะขึ้นขนง่าย สำหรับคนผิวแพ้ง่ายอาจเกิดอาการแพ้เนื่องจากใย polyester เป็นใยสังเคราะห์

เทนเซล หรือ โมดาวน์
ข้อดี: นุ่มลื่น เงางาม สีสวย ระบายอากาศไหมขึ้นอยู่กับวัสดุใช้ทำเส้นด้าย มีความยืดหยุ่น กระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | ข้อเสีย: ราคาแพง สัมผัสผ้าจะเปลี่ยนถ้าเจออุณหภูมิร้อนเกิน หรือเย็นเกิน ซักบ่อย ๆจะขึ้นขนง่าย ไม่แนะนำให้ใส่เครื่องอบ หรือ ถ้าจะอบต้องอบในอุณหภูมิต่ำมาก

การทอเส้นด้ายมีผลต่อเนื้อสัมผัส และ ความทนทานของผ้า การทอผ้าที่ทนทานที่สุดคือการทอแบบทอขัด(percale) เป็นการทอที่แน่นหนาที่สุด ซึ่งคุณอาจเคยสัมผัสมาก่อน เป็นผ้าที่จับแล้วจะรู้สึกแข็งหน่อยๆ เนื้อผ้าจะให้ความรู้สึกไม่ค่อยนุ่มลื่น และ เนื้อผ้าจะไม่ค่อยเงา (นิยมทอผ้าปูที่นอนในสมัยก่อน)

แต่ในปัจจุบันผ้าส่วนใหญ่ที่ทุกคนจะเจอคือผ้าที่ทอแบบ ทวิลล์ (Twill) และ ผ้าที่ทอแบบ ซาติน (Satin) เนื่องจากเนื้อผ้าให้สัมผัสที่นุ่มลื่นและเงากว่า ผ้าสองแบบนี้อาจมีจำนวนเส้นด้ายที่เท่ากันแต่ให้เนื้อสัมผัสต่างกันได้ เนื่องจากการทอแบบ ทวิลล์ เป็นการทอที่แน่นกว่า ทำให้สัมผัสผ้ารู้สึกหนา แข็ง และ คงรูปมากกว่าแต่ข้อดีคือจะขึ้นขนน้อยกว่าการทอแบบ ซาติน ส่วนการทอแบบ ซาติน เป็นการทอแบบหลวมกว่าจะทำให้ผ้ารู้สึกนุ่มลื่น เงามากกว่าแต่จะขึ้นขนง่ายกว่าการทอแบบ twill